สาเหตุหรือที่มาของกลิ่นไม่พึงประสงค์
มีสิ่งอุดตันภายในท่อ
เช่น เส้นผม คราบไขมัน และขี้ตะกอนคราบสบู่ ยาสระผม ถ้าบ้านใหม่ก็อาจเป็นเศษปูน เป็นต้น ลองตรวจสอบด้วยสายตาว่ามีเศษต่างๆ หรือไม่
ตะแกรงกันกลิ่น
บางบ้านมี บางบ้านไม่มี ตะแกรงดักกลิ่นจะอยู่บริเวณรูระบายน้ำทั้งส่วนแห้งส่วนเปียก ถ้าเป็นสภาพปกติคือสะอาด ไม่มีเศษปูนอุดตัน หรือรู้ท่อไม่ตรงศูนย์
ท่อน้ำทิ้งจากอ่างล่างหน้า
ควรมี P-trap ในท่อน้ำทิ้ง หากตรวจสอบแล้วไม่มีการติดตั้ง P-trap ก็มีโอกาสสสูงที่กลิ่นจะย้อนขึ้นมาจากอ่างล้างหน้าได้ และหากโครงการไม่มีจริงๆ ก็สามารถซื้อมาติดภายหลังได้
บ่อดักกลิ่น
ปกติบ่อดักกลิ่นจะมีข้องอ 90 องศา ซึ่งจะติดตั้งให้หงายขึ้นหรือคว่ำลงก็ได้ แต่ถ้าคว่ำลงต้องจมน้ำตลอดเวลาเช่นกัน เพื่อกันกลิ่นในบ่อพักและท่อน้ำทิ้งย้อนขึ้นไปภายในบ้าน นอกจากนี้สภาพภายในบ่อดักกลิ่นควรจะไม่มีตะกอนเศษหิน เศษทราบอยู่ในบ่อ ถ้ามีควรทำความสะอาดภายในบ่อให้เรียบร้อย
Slope การระบายน้ำ
Slope ท่อน้ำทิ้งถ้าน้อยมากๆ น้ำจะไหลช้า มีโอกาสที่กลิ่นจะย้อนกลับมาได้ค่อนข้างสูง ปกติท่อน้ำทิ้งจะซ่อนอยู่บนฝ้า การตรวจสอบต้องทำก่อนปิดฝ้า หากเป็นฝ้าทีบาร์สามารถลองเปิดเองได้ ท่อน้ำทิ้งจะอยู่บริเวณใต้ห้องน้ำชั้นบน
ตำแหน่งชักโครกกับตำแหน่งท่อน้ำทิ้งควรตรงกัน
ถ้าติดตั้งเยื้องกันจะทำให้เกิดช่องว่างใต้ฐานชักโครก ทำให้กากตะกอนซึมลงขอบ หากเกิดช่องว่างใต้ฐานชักโครกก็จะส่งผลเรื่องกลิ่นตามมา การตรวจสอบเบื้องต้นเราสามารถตรวจสอบได้โดยการขังน้ำบริเวณพื้นของห้องน้ำ ถ้าหากว่าใต้ฐานชักโครกมีช่องว่างน้ำในส่วนที่เราขังไว้ก็จะมีการรั่วซึม หรือขังน้ำแล้วไม่อยู่นั่นเอง
การต่อท่ออากาศ
มีการต่อท่ออากาศหรือไม่ ถูกวิธีหรือเปล่า ในกรณีที่ห้องน้ำมีกลิ่น ท่ออากาศจะช่วยลดกลิ่นได้ โดยกลิ่นจะไหลไปยังท่ออากาศที่ปล่อยออกด้านนอก นอกจากจะลดกลิ่นแล้วยังลดการอุดตันที่เกิดจากอากาศไปกั้นทางเดินของน้ำทิ้งด้วย
“ท่ออากาศส่วนมากจะติดบริเวณรอบบ้านหรือใต้หลังคา ไม่ควรปล่อยมาในบ้านโดยเด็ดขาด เพราะจะทำให้มีกลิ่นในบ้าน”